การใช้ยาแอสไพรินเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด: แนวทางการแพทย์ในปัจจุบัน

แนวทางการแพทย์ในปัจจุบัน


บทคัดย่อ

โรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Disease: CVD) เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของโลก การป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ยาแอสไพรินเป็นยาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด อย่างไรก็ตาม แนวทางการใช้ยาแอสไพรินในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยที่ยังไม่มีอาการ (Primary Prevention) มีการเปลี่ยนแปลงและแตกต่างกันไปในแต่ละองค์กรทางการแพทย์ บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสรุปแนวทางการใช้ยาแอสไพรินเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดในปัจจุบัน โดยอ้างอิงจากแนวทางเวชปฏิบัติขององค์กรทางการแพทย์ชั้นนำ ทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป

คำสำคัญ: แอสไพริน, การป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด, แนวทางการแพทย์

บทนำ

โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญทั่วโลก การป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดมีความสำคัญอย่างยิ่งในการลดอัตราการป่วยและเสียชีวิตจากโรคนี้ หนึ่งในวิธีการป้องกันที่ใช้กันอย่างแพร่หลายคือการใช้ยาแอสไพริน อย่างไรก็ตาม การใช้ยาแอสไพรินเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยที่ยังไม่มีอาการ (Primary Prevention) ยังคงเป็นหัวข้อที่ถกเถียงและมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการแพทย์อยู่เสมอ

แนวทางการใช้ยาแอสไพรินเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดในปัจจุบัน

แนวทางการใช้ยาแอสไพรินเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดในปัจจุบันมีความแตกต่างกันไปในแต่ละองค์กรทางการแพทย์ โดยส่วนใหญ่เน้นที่การพิจารณาความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด และความเสี่ยงของการเกิดเลือดออก

แนวทางเวชปฏิบัติของสหรัฐอเมริกา

  • US Preventive Services Task Force (2022): แนะนำให้พิจารณาใช้ยาแอสไพรินขนาดต่ำ (<100 มก./วัน) ในผู้ป่วยอายุ 40-59 ปี ที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด 10 ปี ≥ 10% แต่ไม่แนะนำให้ใช้ในผู้ใหญ่อายุ > 60 ปี
  • ACC/AHA (2019): แนะนำให้ใช้ยาแอสไพรินอย่างระมัดระวังในผู้ใหญ่อายุ 40-70 ปี ที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดสูง (>10% ใน 10 ปี) และไม่มีความเสี่ยงเลือดออกเพิ่มขึ้น ไม่แนะนำในผู้ใหญ่อายุ > 70 ปี หรือผู้ที่มีความเสี่ยงเลือดออก
  • American Diabetes Association (2022): พิจารณาใช้ยาแอสไพรินขนาดต่ำ (75-162 มก./วัน) ในผู้ใหญ่อายุ > 50 ปี ที่เป็นเบาหวานและมีปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ≥ 1 ข้อ และไม่มีความเสี่ยงเลือดออกเพิ่มขึ้น ในผู้ป่วยอายุ > 70 ปี ความเสี่ยงอาจมากกว่าประโยชน์

แนวทางเวชปฏิบัติของยุโรป

  • European Society of Cardiology (2021): ไม่แนะนำให้ใช้ยาแอสไพรินในผู้ที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดระดับต่ำถึงปานกลาง เนื่องจากความเสี่ยงเลือดออก ในผู้ที่มีความเสี่ยงสูง < 70 ปี ควรพิจารณาเป็นรายๆ ไป โดยคำนึงถึงความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดและความเสี่ยงเลือดออก
องค์กรคำแนะนำกลุ่มอายุที่พิจารณาความเสี่ยง ASCVDความเสี่ยงเลือดออกขนาดแอสไพรินหมายเหตุ
US Preventive Services Task Force (2022)พิจารณาใช้ยาแอสไพริน40-59 ปี≥ 10% ใน 10 ปี< 100 มก./วันไม่แนะนำในผู้ใหญ่อายุ > 60 ปี
ACC/AHA (2019)พิจารณาใช้ยาแอสไพริน40-70 ปี> 10% ใน 10 ปีไม่มี75-100 มก./วันไม่แนะนำในผู้ใหญ่อายุ > 70 ปี หรือมีความเสี่ยงเลือดออก
American Diabetes Association (2022)พิจารณาใช้ยาแอสไพริน> 50 ปี (มีเบาหวาน)≥ 1 ปัจจัยเสี่ยงไม่มี75-100 มก./วันในผู้ป่วยอายุ > 70 ปี ความเสี่ยงอาจมากกว่าประโยชน์
European Society of Cardiology (2021)พิจารณาใช้ยาแอสไพริน< 70 ปีสูงไม่แนะนำในผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง

บทสรุป

แนวทางการใช้ยาแอสไพรินเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยที่ยังไม่มีอาการมีความแตกต่างกันไปในแต่ละองค์กร แต่โดยทั่วไปแล้วเน้นที่การประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด และความเสี่ยงเลือดออก การตัดสินใจใช้ยาแอสไพรินควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงและประโยชน์ของแต่ละบุคคล

เอกสารอ้างอิง

  1. US Preventive Services Task Force. Aspirin for primary prevention of cardiovascular events: US Preventive Services Task Force recommendation statement. Ann Intern Med. 2022;176(4):529-535.
  2. Arnett DK, et al. 2019 ACC/AHA Guideline on the Primary Prevention of Cardiovascular Disease: A Report of the American College of Cardiology/American Heart Association Task Force on Clinical1 Practice Guidelines. Circulation. 2019;140(11):e596-e646. 3.2 American Diabetes Association. 10. Cardiovascular Disease and Risk Management: Standards of Medical Care in Diabetes-2022. Diabetes Care.3 2022;45(Suppl. 1):S144-S174.4
  3. Visseren FLJM, et al. 2021 ESC Guidelines on cardiovascular disease prevention in clinical practice. Eur Heart J. 2021;42(34):3227-3337.
  4. Shufelt CL, et al. Summary of Current Guidelines for Aspirin in the Primary Prevention of ASCVD. JAMA. 2022;328(7):672-673.

คำสำคัญ: แอสไพริน, การป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด, แนวทางการแพทย์